พิธีหลั่งน้ำพระพุทธมนต์ คือขั้นตอนที่สำคัญของพิธีมงคลสมรส(แต่งงาน) เพราะเมื่อหลั่งน้ำพระพุทธมนต์เสร็จแล้ว นั้นหมายถึงทั้งคู่ได้เป็นสามีภรรยากันแล้วตามธรรมเนียมไทย แต่ปัจจุบันทั้งคู่ต้องมีการจดทะเบียนสมรสกันด้วยจึงจะถือว่าถูกต้องตามธรรมเนียม และถูกต้องตามกฎหมาย ด้วย
การหลั่งน้ำพระพุทธมนต์ คือการรดน้ำสังฆ์ จะเริ่มจากประธานในพิธี(เฒ่าแก่ หรือ ผู้ที่นับถือ) จะนำคู่บ่าว-สาว กราบพระพุทธ แล้วจูงคู่ บ่าว-สาว ขึ้นนั่งที่ชุดตั่งหลั่งน้ำพระพุทธมนต์ เจ้าสาวนั่งทางซ้าย เจ้าบ่าวนั่งทางขวา จากนั้นประธานในพิธี(เฒ่าแก่ หรือ ผู้ที่นับถือ) จะสวมมงคลแฝดให้แก่คู่ บ่าว-สาว และทำการเจิมหน้าผาก แล้วหลั่งน้ำพระพุทธมนต์ ลงที่มือ บ่าว-สาว พร้อมกล่าวคำอวยพรแก่คู่บ่าว-สาว จากนั้น บิดา มารดา เจ้าบ่าว บิดา มารดา เจ้าสาว และญาติของ บ่าว-สาว จะหลั่งน้ำพระพุทธมนต์ พร้อมทั้งกล่าวคำอวยพรให้คู่ บ่าว-สาว ตามลำดับ
*พิธีการ*
เมื่อได้ฤกษ์ เจ้าภาพหรือผู้แทนนำคู่สมรสเข้าห้องพิธีฯ พร้อมด้วยเพื่อนของคู่สมรสเชิญประธานในพิธีฯ เข้าประกอบพิธีฯ โดยคู่สมรสทำความเคารพประธานฯ ก่อนเป็นการเบื้องต้น
ประธานฯ รับเทียนชนวน จุดเทียนธูปบูชาพระรัตนตรัยในขณะนี้ คู่สมรสยืนประนมมือระลึกถึง คุณพระรัตนตรัยและอธิฐานจิต ที่จะอยู่ครองคู่กันด้วยความซื่อสัตย์สุจริตตลอดไป
เมื่อประธานฯ จุดเทียนธูปบูชาพระรัตนตรัย และกราบพระเรียบร้อยแล้ว คู่สมรสกราบ พระรัตนตรัยแล้วเข้าไปนั่งยังตั่งสำหรับรอรดน้ำสังข์
ประธานฯ รับพวงมาลัย 2 ชาย คล้องให้แก่คู่สมรสตามลำดับ
คู่สมรสวางแขนทั้ง 2 ข้างของแต่ละคนบนหมอนรอง ประนมมือยื่นออกไปตรงขันรองน้ำ
ประธานฯ รับมงคลแฝดสวมศีรษะคู่สมรส รับเครื่องเจิมและเจิมหน้าผากคู่สมรส แล้วรับสังข์หลั่งน้ำพระพุทธมนต์ให้สืบไป
เมื่อประธานฯ หลั่งน้ำพระพุทธมนต์แล้ว เจ้าภาพหรือผู้แทนฯเชิญแขกเข้ามาหลั่งน้ำสังข์ติดต่อกันไป
เสร็จการหลั่งน้ำสังข์แล้ว เจ้าภาพหรือผู้แทนฯ เชิญประธานฯ หรือแขกผู้มีอาวุโสถอดมงคลแฝด หรือเจ้าภาพจะถอดเองก็ได้ แล้วมอบมงคลแฝดให้แก่คู่สมรส
คู่สมรสลุกขึ้นจากตั่งที่นั่งแล้วเข้าไปกราบพระรัตนตรัยและทำความเคารพท่านผู้ถอดมงคลแฝด
เสร็จพิธีฯ แล้ว เจ้าภาพหรือผู้แทนฯ นำคู่สมรสออกไปกราบประธานฯ และทำความเคารพแขก ผู้มาอวยพร เพื่อแสดงความขอบคุณที่ท่านได้กรุณาประกอบพิธีและอำนวยพร
เสร็จพิธี